การที่จะเข้าพิธีแต่งงานแบบมุสลิมนั้น ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะต้องเป็นผู้เชื่ออิสลาม ถ้าคนหนึ่งคนใดไม่ได้เป็นมุสลิม เขาหรือเธอจะต้องเปลี่ยนมาเป็นมุสลิมและประกาศตนเข้าร่วมความเชื่อแบบอิสลามที่มัสยิดเสียก่อน อิหม่ามจะเป็นจะผู้ประกอบพิธีให้กับผู้ที่ประกาศตนว่าเป็นผู้เชื่อในพระเจ้าองค์เดียวที่ได้สำแดงพระองค์ผ่านทางคำสอนของมูฮัมหมัด
ในทางอิสลามแล้ว การมีภรรยาหลายคนเป็นสิ่งที่อนุญาตให้เกิดขึ้นได้ โดยที่ชายหนึ่งคนสามารถมีภรรยาได้ถึง 4 คนในคราวเดียวกัน นักวิชาการชาวอิสลามอธิบายว่า สามีจะต้องแจ้งให้ภรรยาคนแรกทราบก่อนว่าเขาต้องการภรรยาอีก แต่เขาไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากภรรยาคนแรก สำหรับผู้หญิงมุสลิมนั้นสามารถมีสามีได้เพียงคนเดียว แต่พวกเขาสามารถแต่งงานได้อีกหากมีการหย่าร้างเกิดขึ้น
“ฉันจะเป็นภรรยาของเขาคนเดียวหรือเปล่า ฉันหวังใจว่าเขาจะขออนุญาตฉันก่อนที่เขาจะมีภรรยาคนที่สอง” หญิงชาวมุสลิมหลายคนมักมีคำถามแบบนี้เกิดขึ้นในใจ แต่ในทางจารีตประเพณีแล้ว พวกเธอถูกสอนให้ยอมรับสิ่งนี้เสมือนว่าเป็นชะตากรรมของพวกเธอในฐานะที่เกิดมาเป็นผู้หญิง
เรื่องที่เกิดขึ้นกับเพื่อนคนหนึ่งของเราในหมู่บ้านได้สะท้อนให้เห็นถึงความทุข์ยากต่าง ๆ ที่หญิงชาวมุสลิมต้องเผชิญ ไม่นานหลังจากที่ทราบว่าลูกสาวเสียชีวิต นาก็พบว่าสามีของเธอมีลูกสาวอีกคนหนึ่งกับภรรยาน้อยของเขา สามีของเธอขนย้ายข้าวของในบ้านออกไปจนหมดเพื่อไปอยู่กับภรรยาใหม่คนนั้น ทำให้เธอรู้สึกเกลียดชังสามีของเธออย่างมาก เธออยากฆ่าของเธอแม้ว่าเราพยายามบอกกับเธอว่าเธอต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัย
วันหนึ่งในขณะที่เราได้สอนเธอเกี่ยวกับจริยธรรมและศีลธรรมและศีลธรรมต่าง ๆ เราได้บอกกับเธอถึงพระบัญญัติข้อใหญ่ของพระเจ้า “จงรักพระเจ้าด้วยสุดใจของเจ้า และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” เมื่อเธอได้ยินอย่างนี้ เธอก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอร้องไห้อย่างมากเหทือนกับว่าภาระอันหนักหน่วงในใจได้ถูกปลดเปลื้องออกมาด้วย ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ถูกปลดปล่อยจากความแค้นในใจและให้อภัยสามีได้ในที่สุด เราจึงได้แบ่งปันกับเธอถึงพระผู้ช่วยให้รอด และตอนนี้เราก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ
หัวข้ออธิษฐาน
อธิษฐานเผื่อผู้หญิงชาวมุสลิมที่ถูกสามีทอดทิ้ง อธิษฐานที่พระเจ้าจะทรงเปิดเผยพระองค์เองและสำแดงความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระองค์ที่มีต่อพวกเธอ