วันที่ 13 การกดขี่

นบีมูฮัมหมัด เป็นทั้งผู้กดขี่ข่มเหงคนอื่นและเป็นผู้ที่ถูกกดขี่  สิ่งนี้กลายเป็นมรดกฝ่ายวิญญาณที่ส่งต่อไปยังมุสลิม

ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาแห่งเกียรติและแข็งแกร่ง  คนที่ไม่เชื่อในอิสลาม ไม่ปฏิบัติตามกฏของอิสลาม ถือว่าเป็นการกรทำที่น่าละอายและจะต้องถูกลงโทษ ดังนั้นการใช้กำลังข่มเหงคนที่ไม่เชื่อหรือไม่ปฏิบัติตามกฎของอิสลามจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะรักษาเกียรติแห่งอิสลามเอาไว้ได้

คนที่เป็นมุสลิมจะเปลี่ยนไปเชื่อศาสนาอื่นไม่ได้ เพราะจะมีโทษถึงตาย (กุรอาน 4:89) หากใครมาข่มเหงให้พวกเขาเปลี่ยนศาสนา พวกเขาก็จะยินดีรับเพื่อเห็นแก่อัลลอฮฺ เพราะถือว่าเป็นการทดสอบจากอัลลอฮฺ

ใบหม่อน..รู้สึกว่าชาวมุสลิมไม่มีอิสระทางความคิดและไม่สามารถการกระทำตามใจตนเองได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับมุสลิมที่จะเปลี่ยนมาเชื่อพระเยซู แม้เขาจะรู้ว่าพระเยซูคือทางเที่ยงตรง แต่พวกเขาอาจถูกกดขี่ข่มเหงได้ทั้งจากครอบครัวและจากคนรอบข้างภายนอกด้วยค่ะ 

พระเจ้าตรัสว่า...

“คนที่ถูกข่มเหงเพราะเหตุความชอบธรรม ก็เป็นสุข เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขาทั้งหลาย” มัทธิว 5:10

 

หัวข้ออธิษฐาน

  • ขอการปลดปล่อยสำหรับผู้ที่กำลังทุกข์ทรมานจากการถูกกดขี่ทางร่างกายและจิตใจ  ขอให้พวกเขาได้รับการช่วยเหลือและมีอิสระในพระเยซูคริสต์ 
  • ขอให้ทุกดวงตาของชาวมุสลิมที่จะเปิดออกสู่ความจริงว่าพระเยซูคือพระเจ้า
แชร์

Your encouragement is valuable to us

Your stories help make websites like this possible.